อิฐแดง ใช้งานอย่างไร และมีข้อดีและข้อเสียอย่างไรบ้าง ?

อิฐแดง หรืออิฐมอญ (Red Brick) จะมีขนาดเล็ก โดยทั่วไปจะมีอยู่ 2 รูปแบบ คือ ชนิดทำมือ ผิวจะขรุขระ และชนิดปั้นด้วยเครื่อง ผิวจะเรียบและทำให้เบาขึ้นด้วย เพราะมีรูกลวง 2-3 รูตลอดความยาวของอิฐ ทำจากดินเหนียว น้ำ และวัสดุที่ผสมเพิ่ม เช่น ขี้เถ้า แกลบ ทราย ผสมกันในอัตราส่วนที่เหมาะสม จากนั้นใส่แบบพิมพ์อัดเป็นก้อนสี่เหลี่ยมตามขนาดที่ต้องการ ทิ้งไว้ให้แห้ง แล้วนำไปเผาจนสุกนั่นเอง

การใช้งานของอิฐแดง นิยมใช้กับงานก่อสร้างทั่วไป เหมาะสำหรับการใช้วัสดุกรุผนังที่มีน้ำหนักมากๆ สามารถใช้ในการก่ออิฐโชว์แนว ก่อผนังสไตล์ลอฟท์และวินเทจ หรือใช้ตกแต่งสวนได้ ข้อดีคือ สามารถยึดเกาะได้ดีกว่าอิฐประเภทอื่นๆ นอกจากนี้ สีและรูปร่างของอิฐแดงเป็นอีกเสน่ห์ที่หลายคนชื่นชอบ แม้จะก่อแบบไม่ฉาบปูนทับผนังก็ยังสวย แต่ก็มีข้อเสียคือ อาจจะใช้เวลาก่อมากกว่าการก่อด้วยอิฐชนิดอื่นๆ แต่ผนังที่ได้จะแข็งแรง ทนทาน คุ้มค่ากับเวลาที่เสียไปอย่างแน่นอน

คุณสมบัติเด่นของอิฐแดง มีดังนี้

1) หาซื้อได้ง่าย และมีราคาไม่แพง

2) สามารถยึดเกาะได้ดี มีความหนาแน่นสูง

3) แข็งแรง ทนทานต่อสภาพอากาศในประเทศไทย

4) สามารถรับน้ำหนักได้ 30 กิโลกรัมต่อ 1 ตารางเซนติเมตร

5) เป็นอิฐที่เกิดจากกระบวนการผลิตด้วยการเผาตามภูมิปัญญาชาวบ้าน จึงทำให้มีสีสันที่มีความคลาสสิค เป็นเสน่ห์ที่หลายคนชื่นชอบ

คุณสมบัติด้อยของอิฐแดง มีดังนี้

1) ดูดความชื้น ทำให้อากาศถ่ายเทไม่สะดวก

2) สะสมความร้อน ส่งผลทำให้บ้านร้อนได้

3) ค่อนข้างมีปัญหาเรื่องการเก็บเสียง

4) อิฐมอญส่วนใหญ่จะผลิตจากชุมชน อาจมีคุณภาพ มาตรฐาน และขนาดไม่สม่ำเสมอกัน

5) มีขนาดเล็ก จึงทำให้ต้องใช้เวลาก่อสร้างค่อนข้างนาน และค่าแรงก่อสร้างแพงอีกด้วย

จะเห็นว่า ในปัจจุบันอิฐถูกนำมาใช้ด้วยวัตถุประสงค์ที่หลากหลาย เพราะไม่เพียงเป็นแค่วัสดุในการก่อผนัง แต่สถาปนิกยังอาจนำมาใช้เป็นลูกเล่น หรือเพิ่มรายละเอียดในงานออกแบบ เพื่อให้บ้านมีชีวิตชีวาหรือมีความแตกต่างมากขึ้น แต่ทั้งนี้การเลือกใช้อิฐให้เหมาะกับการก่อสร้างในแต่ละครั้ง ปัจจัยสำคัญที่ควรใช้ประกอบการพิจารณาคือ วัตถุประสงค์การใช้งาน งบประมาณที่ตั้งไว้ เวลาการก่อสร้าง ที่สำคัญคือความต้องการและความชอบของเจ้าของบ้านด้วย